สำหรับใครที่ชื่นชอบการแต่งรถและกำลังมองหาตัวช่วยดี ๆ เพิ่มสีสันใหม่ ๆ ให้กับตัวรถได้ตามความต้องการ ร้านผสมสีรถยนต์ คือ ตัวเลือกที่คุณกำลังตามหา แต่จะดีกว่ายังไงตอบโจทย์ได้มากแค่ไหนไปดู
ร้านผสมสีรถยนต์ดียังไงทำไมถึงต้องเลือกใช้บริการ
สาเหตุสำคัญของการเลือกใช้บริการร้านผสมสีรถยนต์นั้น หลัก ๆ คือ ทำให้เรามั่นใจได้ว่างานจะออกมามีคุณภาพและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ ผลงานที่ได้หลัก ๆ จึงเป็นที่น่าพึงพอใจมากกว่า ดังนี้
1. ไม่ส่งผลเสียต่อรถในระยะยาว
เนื่องจากทุกกระบวนการอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นสีที่นำมาใช้จึงได้มาตรฐานและมีคุณภาพทำให้มั่นใจได้ว่าหากเปลี่ยนบ่อยจะไม่ส่งผลเสียต่อรถในระยะยาว
2. ได้สีตามแบบที่ต้องการ
การผสมสีจำเป็นต้องใช้ศาสตร์และศิลป์แบบเฉพาะตัวหากผิดพลาดแม้แต่ % เดียวอาจทำให้ได้สีไม่ตรงตามความต้องการ ดังนั้นจึงไม่ควรผสมเองและเลือกใช้บริการร้านผสมสีมาตรฐานจึงดีกว่า
3. ราคาไม่บานปลาย
เนื่องจากเราสามารถประเมินราคาเบื้องต้นและบวก – ลบเผื่อไว้แล้วจึงทำให้มั่นใจว่าราคาที่ต้องจ่ายไม่บานปลายแน่นอน
4. บริการให้คำปรึกษา
สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้และอยากเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการผสมสีหรือรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความภาคภูมิใจในการเปลี่ยนสีรถสุดโปรดของตัวเองใหม่ บอกเลยว่าสามารถขอคำปรึกษาได้ฟรี
วิธีดูแลรักษารถหลังจากทำสี
ไหน ๆ ก็ใช้บริการร้านผสมสีรถยนต์เพื่อให้ได้รถสีสวยถูกใจกันไปแล้ว คราวนี้ก็ต้องมีวิธีการดูแลเพื่อให้สีสวยสดและมีอายุการใช้งานนานขึ้น ดังนี้
- ล้างรถด้วยน้ำเปล่าในช่วง 30 วันแรก พร้อมควบคุมค่า pH ให้อยู่ในช่วง 6.5 – 7.5
- ล้างด้วยน้ำเปล่าแรงดันปกติ และเช็ดด้วยผ้าที่มีความนุ่มพิเศษ
- หลีกเลี่ยงการขัดเคลือบสีอย่างน้อย 1 – 3 เดือน
ข้อควรรู้ก่อนทำสีรถยนต์
แน่นอนว่าเหล่าคนรักรถทุกคนอยากให้รถดูใหม่และดูสวยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการทำสีกับร้านผสมสีรถยนต์ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่รู้หรือไม่ว่าการทำสีบ่อย ๆ อาจส่งผลเสียกับรถมากกว่าที่คิด หลัก ๆ ที่พบเห็นได้บ่อย มีดังนี้
- สีรถไม่เรียบเนียน
- สีหลุดลอกง่าย
- ราคาตก
- สีเพี้ยนหรือ fade ไปจากเดิม
- มีผลต่อประกันภัยรถยนต์
เห็นหรือไม่ว่าร้านผสมสีรถยนต์นั้นเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับคนรักรถที่อยากเพิ่มสีสันใหม่ ๆ ให้กับรถมากแค่ไหน แต่ก่อนตัดสินใจก็อย่าลืมดูเรื่องของประเภทสีที่ทางร้านนั้น ๆ ใช้ด้วยว่าเป็นสีประเภทไหน หลัก ๆ แล้วควรเป็นสีประเภท 2K หรือไม่ก็ OEM มาตรฐานเดียวกันกับโรงงานไปเลย จะได้มั่นใจว่าสีสวยและตรงความต้องการ